พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ


... ...



เลขที่ : 0111
ประเภทพระเครื่อง : พระเนื้อดิน
ชื่อพระเครื่อง : พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
สถานะ (ให้ชม/เช่าบูชา) :
ข้อมูลของพระเครื่อง : พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี พระองค์นี้สวยสมบูรณ์

พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี
พระผงสุพรรณแตกกรุ เมื่อปี พ.ศ. 2456 โดยคนจีนเข้าไปทำสวนผักในบริเวณวัดซึ่งถูกทิ้งให้รกร้าง แล้วก็แอบขุดพระปรางค์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ได้พบแก้วแหวนเงินทอง จึงขโมยออกมา แล้วหนีไปเมืองจีน ต่อมาได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าว ลงไปในกรุอีก เจ้าเมืองสุพรรณในขณะนั้นจึงให้มีการเปิดกรุอย่างเป็นทางการ ได้พบแผ่นลานเงิน แผ่นลานทอง ซึ่งได้บันทึกประวัติการสร้างพระและการสร้างวัดเป็นไว้หลักฐาน
นอกจากนี้ยังพบพระบูชาและพระเครื่องมากมายหนึ่งในนั้นคือ พระผงสุพรรณซึ่งเป็นเนื้อดินเผา มีหลายสี เช่น สีแดง สีเขียว สีดำ เป็นต้น ซึ่งมีอยู่ 3 พิมพ์ คือ พิมพ์หน้าแก่ พิมพ์หน้ากลาง พิมพ์หน้าหนุ่ม และนอกจากนี้ยังมีพิมพ์พระผงสุพรรณซึ่งเป็นโลหะเนื้อชินสันนิษฐานว่าสร้างจากแร่สังฆวานร (ตามบันทึกในใบลาน) เรียกว่า พระสุพรรณยอดโถ
ตามจารึกลานทองที่กรมศิลปากรแปลออกมาได้กล่าวถึงการสร้างว่า “ศุภมัสดุ 1265 สิทธิการิยะ แสดงบอกไว้ให้รู้ว่าฤาษีทั้งสี่ตนพระฤาษีพิมพิลาไลย์เป็นประธาน เราจะทำด้วยฤทธิ์ทำด้วยเครื่องประดิษฐ์ มีสุวรรณ เป็นต้น คือ บรมกษัตริย์พระยาศรีธรรมโศกราช เป็นผู้มีศรัทธา พระฤาษีทั้งสี่ตนจึงพร้อมกันนำเอาแต่ว่านทั้งหลาย พระฤาษีจึงอัญเชิญเทวดามาช่วยกันทำพิธีเป็นพระพิมพ์ไว้สถานหนึ่งแดง สถานหนึ่งดำ ให้เอาว่านทำเป็นผงก้อน พิมพ์ด้วยลายมือของมหาเถระปิยะทัสสะสี ศรีสารีบุตร คือ เป็นใหญ่เป็นประธานในที่นั้น ได้เอาแร่ต่าง ๆ มีอานุภาพต่างกัน เสกด้วยมนต์คาถาครบ 3 เดือน แล้วท่านให้เอาไปประดิษฐ์ไว้ในสถูปแห่งหนึ่งที่เมืองพันทูม”
นักโบราณคดีได้แปลความหมายของจารึกลานทองว่า พระผงสุพรรณมีสร้างจากมวลสาร 2 ชนิด คือ พระเนื้อดินเผาที่ผสมจากว่านและเกสรต่าง ๆ และ อีกชนิดคือ พระผงสุพรรณที่ทำจากแร่ตามจารึกว่า “ได้เอาแร่ต่าง ๆ มีอานุภาพต่างกัน ถ้าผู้ใดพบพระทำด้วยแร่สังฆวานรก็ดี” ซึ่งน่าจะเป็นพระผงสุพรรณเนื้อชินหรือพระสุพรรณยอดโถ
จุดพิจารณาของพระผงสุพรรณนั้น เนื้อดินของพระผงสุพรรณเป็นเนื้อดินค่อนข้างละเอียด แต่ไม่ละเอียดเท่าพระรอดกรุวัดมหาวัน เนื่องจากดินแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนกัน และนำน้ำว่านมาผสมเข้ากับมวลสารเกสรร้อยแปด เหตุเพราะสันนิษฐานจากพระผงสุพรรณนั้น หากโดนเหงื่อผิวองค์พระจะหนึกนุ่มขึ้นเงาหรือที่เรียกว่า แก่ว่าน นั่นเอง
นอกจากนี้ มีจุดพิจารณาสำหรับพระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่เพิ่มเติมดังนี้-พื้นผิวขององค์พระจะเป็นเม็ดผดคล้ายผิวมะระ เป็นคลื่นตะปุ่มตะป่ำไม่เสมอกัน อันเนื่องจากการหดตัวของพระเนื้อดินโดยธรรมชาติ
-ช่วงใต้พระอุระซีกซ้าย จะมีเม็ดผดเรียงกันลงมา 3 เม็ด
-พระเนตรด้านซ้ายขององค์พระยาวรีลึก ปลายพระเนตรตวัดขึ้นสูงกว่าพระเนตรด้านขวา
- พระนาสิกหนาใหญ่ ทั้งสองข้างมีร่องลึกลงมารับพระโอษฐ์ ซึ่งแย้มเล็กน้อย
- พระกรรณขวาขององค์พระจะขมวดคล้ายมุ่นมวยผม ไรพระศกทอดยาวลงมามากกว่าพระกรรณด้านซ้าย
- เกือบบนสุดของพระกรรณขวามีร่องลึก เหมือนร่องหู และพระกรรณด้านบนเหนือร่องจะหนาใหญ่และโค้งคล้ายใบหูมนุษย์
- ด้านในของพระกรรณซ้ายจะมีเม็ดผดคล้ายเมล็ดข้าวสารวางสลับไปสลับมาเรื่อยมาถึงปลายพระกรรณ
- พระอุระใหญ่ก่อนจะคอดกิ่วมาทางพระนาภีมองไปคล้ายหัวช้าง
- ระหว่างพระอุระกับพระอังสะซ้ายขององค์พระเว้าลึกปรากฏเป็นรอยสามเหลี่ยม
- มีเส้นบาง ๆ ลากผ่านเหนือพระอังสะซ้าย ไปจรดขอบนอกพระอุระด้านซ้ายปลายเส้นปรากฏเม็ดผดเล็ก ๆ ขึ้นเรียงรายได้ราวนมซ้าย 3 เม็ด
- พระหัตถ์ซ้ายหนาใหญ่อยู่กึ่งกลางลำพระองค์ ปลายพระหัตถ์ไม่จรดพระกรขวา เหมือนกับพิมพ์หน้ากลาง และมองเห็นร่องพระหัตถ์ชัดเจน
- ข้อพระกรขวาขององค์พระด้านในเว้าลึก
-พระหัตถ์ขวาจะมองเหมือนกุมไว้ ไม่แบออก
-ด้านหลังองค์พระจะมีลอยลายนิ้วมือปรากฏจะเป็นลายนิ้วมือ หัวแม่โป้งแบบก้นหอยขนาดใหญ่ ซึ่งเป็น ลักษณะนิ้วมือของคนโบราณ
ที่มา : นายกองตรีอ้วน , songphakan@gmail.com , พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี.




Copyright © 2019 Form Webmaster Amuletherritage.
กลับด้านบน