พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน


... ...

เลขที่ : 1523
... ...

เลขที่ : 1524

ประเภทพระเครื่อง : เครื่องรางของขลัง
ชื่อพระเครื่อง : พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน
สถานะ (ให้ชม/เช่าบูชา) :
ข้อมูลของพระเครื่อง : พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร
เครื่องรางที่คนไทยเรารู้จักกันมาตั้งแต่ครั้งปู่ย่าตายาย ซึ่งมีหลายประเภท โดยเฉพาะสัตว์หลายชนิด ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์สมัยเมื่อเป็นพระโพธิสัตว์เสวยชาติต่างๆ เช่น ช้าง (พญาฉัททันต์) นกคุ่ม (ลูกนกคุ่ม) นกยูง (พญานกยูงทอง) เต่าหรือพญาเต่าเลือน อันกลายมาเป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งของคนไทย แม้กระทั่งคนจีนก็ยังถือว่าเต่าเป็นสัตว์นำโชคลาภและสัตว์ที่มีอายุยืนยาวจะไม่นิยมกินเป็นอาหาร เพราะถือว่าเป็นการบั่นทอนอายุของตนเอง
สำหรับคนไทยนั้น เชื่อกันว่า พญาเต่าเลือน คือ พระโพธิสัตว์ผู้ช่วยมนุษย์ให้รอดจากอันตราย ซึ่งมีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกตอนหนึ่งว่า ครั้งนั้นสมเด็จพระทศพลเสวยพระชาติเป็นพญาเต่า มีร่างกายอันใหญ่โตกินแต่ใบไม้ และพลาหารต่างๆ บนยอดเขาบนเกาะร้างกลางทะเลและร่างกายของพระองค์ใหญ่เท่ากับเรือนหลังใหญ่ ๆ เรียกกันว่า เต่าเรือน
ท่านเสวยสุขอยู่จนกระทั่งวันหนึ่งมีสำเภาของพ่อค้ามาอับปางลงที่หน้าเกาะ ส่วนลูกเรือและพ่อค้ารอดชีวิตจากความตายในทะเลได้แต่ก็ต้องมาผจญกับความอดยาก เพราะบนเกาะไม่มีอาหารการกินแม้แต่สัตว์ใดๆ ก็ไม่มียกเว้นพญาเต่าเรือน จึงได้แต่นอนรอคอยความตาย บ้างก็ร่ำๆ จะเข้ากินกันเป็นอาหาร ดังนั้น พระโพธิสัตว์เจ้าเห็นพ่อค้าและลูกเรือทั้งหลายจะพากันมาอดตายกันหมดก็เกิดความสลดใจและเห็นว่าตัวเราก็มีเนื้อมาก อีกทั้งอายุก็มากแล้วหากต้องตายไปตามอายุร่างกายก็จะเน่าเปื่อยหาประโยชน์ไม่ได้ ซึ่งชีวิตนั้นก็เกิดแก่เจ็บตายก็เลยอธิษฐานเอาร่างกายตนเป็นทาน จึงคลานมาที่หน้าผาแล้วทิ้งตัวลงไปทำให้กระดองกระแทกกับแง่หินแตกกระจาย เนื้อก็ไหลออกมากองอยู่ที่พื้นเบื้องล่าง และทำให้พ่อค้ากับลูกเรือทั้งหลายได้อาศัยเนื้อเต่ากินเป็นอาหาร จึงรอดตาย จนกระทั่งมีเรือผ่านมารับไปและจากการกระทำของพระโพธิสัตว์ในการอุทิศร่างโดยการเลื่อนลงมาจากหน้าผานั้นเลยเรียกกันว่า “พญาเต่าเลื่อน”
คำว่า “เต่าเรือน” จึงเป็นนามของพระโพธิสัตว์ที่มีรูปร่างใหญ่และคำว่า “เต่าเลือน” จึงเป็นนามของพระโพธิสัตว์ขณะเลื่อนตัวเองลงมาจนกระดองแตกถึงแก่ความตายเพื่อเอาเนื้อเป็นทาน
ดังนั้นครูบาอาจารย์ในสมัยโบราณจึงได้สร้างวัตถุมงคลเป็นรูปพญาเต่าเรือน ด้วยเชื่อว่าจะทำให้ทำมาค้าขายดี เพราะถือว่าพญาเต่าเรือนอยู่ในชาติหนึ่งขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์เคยเสวยชาติเป็นพญาเต่าเรือน ได้สละเลือดเนื้อชีวิตเพื่อเป็นทานแก่สัตว์ผู้ยากไร้ เกจิอาจารย์ต่างๆ ในอดีตจึงมีการสักยันต์ตามตัวและทำเครื่องรางเพื่อไว้ใช้ ด้วยเหตุที่ว่าสารพัดใช้ ตามอธิษฐาน วิเศษนักเป็นได้ทุกอย่าง เช่น ทำให้มีโชคลาภ เงินทองหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ค้าขายจะเจริญก้าวหน้า และเป็นมงคลแก่ผู้บูชายิ่งนัก
การทำเครื่องรางพญาเต่าเรือนในสมัยโบราณนั้น มักนิยมใช้กระดองเต่าตายซากหรือตายเองซึ่งถือเป็นหลักโดยห้ามฆ่าจากนั้นก็จะนำกระดองเต่ามาลงอักขระหัวใจพญาเต่าเรือน ที่ว่า “นา สัง สิ โม” และอักขระ พระเจ้าห้าพระองค์ ที่ว่า “นะ โม พุท ธา ยะ” จากนั้นนำไปปลุกเสก
ทั้งนี้ มีคติความเชื่อว่า เครื่องรางพญาเต่าเรือนเป็นของดีที่หายากและมีความสำคัญประจำบ้านเรือน และป้องกันภัยพิบัติอันตรายทุกประการจากโจรภัย วาตภัย อัคคีภัย ฯลฯ เรียกว่า หากใครมีไว้บูชาถือว่าเป็นแก้วสารพัดนึกเลยก็ว่าได้ แต่ปัจจุบันกระดองเต่าที่ตายซากหรือตายเองหาได้ยาก เกจิอาจารย์จึงใช้วิธีเขียนอักขระบนแผ่นโลหะหรือผ้ายันต์เป็นรูป “พญาเต่าเรือน” แล้วนำมาปลุกเสก
ที่มา : komchadluek, www.komchadluek.net/ , พญาเต่าเรือน พญาเต่าเลือน, โพสต์ 08 ธันวาคม 2559.








Copyright © 2019 Form Webmaster Amuletherritage.
กลับด้านบน